July Promotion - Springboard Solutions, Social Media and Digital Package

July Promotion - Springboard Solutions, Social Media and Digital Package

July 2018 Social Media Package

🎯 มาเป็นเซ็ท จัดให้เต็มชุด 👔👕👖🧣🧥👘👗👙👚👟👡
กับ #TheSocialMediaPackage
#JulyPromotion
promotion 12,000 บาท รวมบริการ
– 4 Attractive Contents / 4 เนื้อหา สดๆ ใหม่ๆ โดนๆ ทุกเดือน
– 2 Graphic Artworks / 2 อาร์ทเวิร์คสวยๆ ไม่ซ้ำใคร
– Page admin / ช่วยดูแล ตอบคำถามในเพจ ตลอดทั้งเดือน
– Marketing Consulting / พร้อมให้คำปรึกษา วางแผน การทำการตลาดตลอดทั้งเดือน

#มาเป็นเซ็ทจัดให้เต็มชุด กับการทำการตลาด #online ที่ครบจบใน ราคาเดียว อย่ารอช้า จากปกติ 15,000 ต่อเดือน เหลือ 12,000 บาท
* สัญญา ขั้นต่ำอย่างน้อย 3 เดือน
* ดูแล 3 online media channels
* ราคานี้ไม่รวมค่าถ่ายรูป หรือ ทำ Branding
ลงทะเบียนด่วน!!! ภายใน #กรกฎาคม 2561 นี้เท่านั้น ☎️ 095 029 6644
—————————————————

4 contents - July Promotion - Springboard Solutions, Social Media and Digital Package

Graphic Artworks - July Promotion - Springboard Solutions, Social Media and Digital Package

Page Admin - July Promotion - Springboard Solutions, Social Media and Digital Package

Marketing Consultant - July Promotion - Springboard Solutions, Social Media and Digital Package

Contact Us - July Promotion - Springboard Solutions, Social Media and Digital Package

Check-Out our Social Media Marketing

—————————————————
#digitalmarketingagency #OnlineMarketing
#SEO #Branding #Photoshooting #thailand #Pageadmin

The Social Media Pakcage bu Springboard Solutions

โปรดีๆ ที่จะช่วยให้คุณทำเพจได้ง่ายขึ้น

The Social Media Package by Springboard Solutions

The Social Media Package bySpringboard Solutions

มาเป็นเซ็ท จัดให้เต็มชุด กับ Springboard Solutions Promotion ราคาพิเศษ 8,000 บาท ที่รวม

– 8 Attractive Contents/ 8 เนื้อหา สดๆ ใหม่ๆ โดนๆ- 4 Graphic Artworks/ 4 อาร์ทเวิร์คสวยๆ ไม่ซ้ำใคร
– Page admin/ ช่วยดูแล ตอบคำถามในเพจ ตลอดทั้งเดือน
– Marketing Consulting/ พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการทำการตลาดตลอดทั้งเดือน
กับ The Social Media Package by Springboard Solutions

#มาเป็นเซ็ทจัดให้เต็มชุด กับการทำการตลาด online ที่ครบจบใน ราคาเดียว อย่ารอช้า จากปกติ 15,000 ต่อเดือน เหลือ 8,000 บาท แค่สิ้นเดือน มิถุนายน นี้เท่านั้น
☎ 095 029 6644

8 attractive contents - The Social Media Package by Springboard Solutions

4 graphic artworks - The Social Media Package by Springboard Solutions

Page admin - The Social Media Package by Springboard Solutions

Marketing Consultant - The Social Media Package by Springboard Solutions

Contact Us - The Social Media Package by Springboard Solutions

Contact Us – 095 029 6644

บริการ Social Media Marketing อื่นๆ ของ Springboard Solutions 

Springboard Solutions Cover Photo

Springboard Solutions

การเปลี่ยน “คนแปลกหน้า” ให้มาเป็น “ผู้สนับสนุนสินค้า” ของ Inbound Marketing

แน่นอน ก่อนที่จะมาเป็น Loyalty Customer ได้นั้น กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ล้วนเคยเป็น ‘คนแปลกหน้า’ สำหรับพวกเรา (คนขาย แม่ค้า ห้าง บริษัท) มาก่อน แต่การที่เราจะ ‘ดึง’ พวกเค้าเหล่านั้นให้มาเป็นลูกค้าประจำ เป็นลูกค้าที่ซื่อสัตย์ต่อสินค้าของเรา หรือ อาจจะยิ่งไปกว่านั้นคือ กลายมาเป็น ผู้สนับสนุนสินค้าของเรา หรือ ‘Promoters’ ให้กับสินค้าเราโดยที่เราเองไม่ต้องขอร้อง หรือจ่ายเงินให้พวกเขาเหล่านั้นเลย คือ เปลี่ยน “คนแปลกหน้า” ให้มาเป็น “ผู้สนับสนุนสินค้า” ของ Inbound Marketing นั้นมีขั้นตอนอะไรบ้าง ลองอ่านตามนี้เลยค่ะ

คนแปลกหน้า

 — แน่นอน เราไม่เคยรู้จักคนเหล่านั้น และคนเหล่านั้นก็ไม่รู้จักเราเช่นกัน แต่พวกเขาอาจจะถูกดึงมาหาเรา โดยได้รับข้อมูลจาก ทีวี โฆษณา เพื่อน และ สื่อออนไลน์ต่างๆ และเกิดความสนใจในสินค้าของเรา (Attract)และเริ่มวิวัฒนาการ สู่ขั้นต่อไป

Stranger - คนแปลกหน้า - Springboard solutions

Stranger

ผู้เข้ามาชม

— หลังจากที่พวกเขาเหล่านี้ได้เกิดความสนใจในสินค้าของเรา พวกเขาก็จะเริ่มทำการ search หาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของเรา มาเป็น Visitors ในหน้า เพจ เรา เข้ามาอ่าน Blog ของเรา และ ตามสื่อ Social ต่างๆ ของพวกเรา และแน่นอนที่สุด ถ้ากลุ่มคนเหล่านี้เริ่มเข้ามาแวะชม สินค้าของเรา เราก็ต้องดำเนินการขั้นต่อไปเพื่อที่จะเปลี่ยนพวกเขาให้มาเป็น กลุ่มเป้าหมาย ‘Leads’ ซึ่งขั้นตอนนี้เราอาจจะต้องศึกษาลึกลองไปอีก

Visitors - ผู้เข้ามาเยี่ยมชม - Springboard Solutions

Visitors

กลุ่มเป้าหมาย

 — แน่นอน กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ไม่ใช่ กลุ่ม Target ที่เราทำ Market Set ไว้แต่ทีแรก แต่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่เราคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าจะซื้อของของเราแน่ๆ ด้วยเหตุผลหลายข้อคือ มาดูของในร้านเราหลายรอบแล้ว มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อสินค้าตัวนี้ และมีลักษณะตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เราวางไว้ตั้งแต่แรก หรือที่เรียกว่า Potential Customer เราอาจจะต้องศึกษา พูดคุยถึงความสนใจและต้องการของพวกเขาให้ระเอียดขึ้นอีกนิด และเมื่อเราได้คำจำกัดความของผู้ที่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะซื้อของของเราแล้ว เราควรจะต้องโทรตาม แจ้งโปรโมชั้นสินค้าที่เขาสนใจ สร้างระบบ Landing Page เพื่อที่จะปิดการขายของเราให้ได้ คือการ ‘Close Sale’ บางร้านค้าทำระบบติดตามลูกค้าเช่นถ้ากลุ่มเป้าหมายเราใส่สินค้าในตะกร้าสินค้าแต่ยังไม่ทำการซื้อ พวกเขาอาจจะได้รับข้อความสนับสนุนการขายจากทางร้านอีกครั้ง เช่น ‘บัตรเครดิตนี้ใช้เป็นลดของสินค้าตัวนี้ได้’ เพื่อเป็นการกระตุ้นและย้ำให้พวกเขาอยากได้สินค้าของเรา เพราะเขาอาจจะรู้สึกว่ามันไม่คุ้มในราคาที่เคยเห็น เลยเกิดความลังเลและใช้เวลานานในการตัดสินใจ

Target Customers - กลุ่มเป้าหมาย - Springboardsolution

Target Customers

ลูกค้า

— จนกระทั่งลูกค้าตัดสินใจซื้อของจากร้านค้าเราแล้ว จึงจะเรียกได้ว่าเราทำการปิดการขายได้แล้ว หรือ ‘Close Sale’ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่ถือว่าขั้นตอนการขายขั้นตอนสุดท้าย เพราะแน่นอนว่า ลูกค้าเหล่านี้ยังสามารถมารีวิวสินค้า บอกต่อ หรือ ช่วยส่งเสริมการขายสินค้าของเราด้วยหากเขามีความพึงพอใจในสินค้าของเรา และอีกหนึ่งเหตุผลคือ เมื่อเขาได้ซื้อของของเราครั้งนึงแล้ว เราจำเป็นที่จะต้อง มีข้อมูลของเขาเพื่อจะทำการติดตามและส่งโปรโมชั้นสินค้าใหม่ไปให้เขาอีก ไม่ว่าจะเป็น CRM, E-mail เพื่อส่งโปรโมชั่นไปให้พวกเขา ลูกค้าจะได้ไม่ลืมเรา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ Coke สังเกตุว่าการจะเห็นโฆษณาของ Coke ออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้าไม่ลืม เช่นเดียวกับ ไอศรีม Magnum ที่มีมาตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังการทำโฆษณาออกมาเมื่อ 2–3 ปีก่อน จนคนกลับมาสนใจอีกครั้ง

Customers -ลูกค้า - Springboard Solutions

Customers

Change - Springboard Solutions

Change

 

ผู้สนับสนุน

— และท้ายสุดเมื่อ เขาเห็นว่าสินค้าเราดีจริงและได้รับข้อเสนอดีๆ จากทางร้านเราแบบสม่ำเสมอ จนพวกเขาอาจจะกลายเป็น ผู้มีความรู้ความชำนาญในสินค้าของเรามากกว่าพนักงานของเราเสียอีก เราอาจจะเรียกเขาว่าเป็นผู้รู้จริง (Delight) ทางร้านค้าจำเป็นต้องใส่ใจกับกลุ่มผู้สนับสนุนด้วย เช่นคอยทำ Social Monitoring ดูกระแสตอบรับของสินค้าเราในโลกออนไลน์ ทั้งที่เป็น บวก และ ลบ เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการปรับปรุงทั้งในตัวสินค้า และการตลาดของเราในภายหน้า

Supporter

Supporter

We are professional at Website, Web Design, SEO, Online Marketing Plans
Athittaya Rodthong (Maprang),
Senior Sale Manager
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — -
Springboardsolutions, Phuket Office
88/9 B105 Software Park Building Floor 1,
Moo 2 Chaofah West Rd., Vichit, Muang, Phuket 83000
Mobile : (66)95 029 6644
Email : athittaya@springboardsolutions.me

สนใจบริการของ Springboard Solutions อ่านเพิ่มเติมได้ที่ –> Service

Digital Marketing
Website Design - Springboard Solutions

Website Design

ประเภทเว็ปไซต์ที่แบ่งออกตามโครงสร้างและการพัฒนา – ลูกค้าหลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า คนพัฒนาเว็ปไซต์ เค้าคิดค่าทำเว็ปไซต์จากอะไร ทำไมค่าทำเว็ปไวต์บางอัน แพงกว่า บางอัน ความจริงแล้วราคานั้นขึ้นอยู่กับ ฟังก์ชั่น (function) การใช้งาน ว่ามีความยากง่ายแค่ไหน Springboard Solutions จึงขอแบ่งกลุ่มประเภทเว็ปไซต์ที่แบ่งออกตามโครงสร้างและการพัฒนา ตามความยากง่าย และราคา ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้

Informative – เว็ปไซต์ที่ให้ข้อมูลทั่วๆไป


อันนี้จะรวมไปถึงเว็ปไซต์ที่ เป็น เว็ปไซต์หน้าบ้าน ของบริษัทิต่างๆ เว็ปไซต์ข่าว Blog ต่างๆ และ webboard ซึ่งฟังก์ชั่นหลักๆ ส่วนใหญ่ที่ผู้พัฒนาจะให้ความสำคัญคือจะต้องมี หลังบ้าน ให้ admin หรือ ผู้ใช้งาน ‘post -โพสต์’ ข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ ได้ แก้ไขและลบได้ ฟังก์ชั่นพื้นฐานเพิ่มเติมคือจะต้องมี อีเมล์ – Email ที่สามารถส่งหรือตอบรับระหว่าง admin และลูกค้าได้ บางเว็ป หรือ blog ก็สามารถใส่ คอมเม้นท์ได้ หรือ สามารถ click share ไปใน Social Meida ต่างๆของผู้ใช้งาน

Shopping Web – เว็ปไซต์ที่สามารถขายของได้

 

ถือว่าเป็นเว็ปไซต์ที่ต้องการฟังก์ชั่น พิเศษ เพิ่มเติมคือ ผู้เข้าชมนอกจากจะเข้ามาอ่านหาข้อมูลและยังสามารถสั่งซื้อของได้ด้วย ซึ่งหัวใจหลักของ Shopping Website นั้นคือมี shopping cart และสามารถทำ online payment ได้ ไม่ว่าจะเป็น internet banking, paypal, credit/debit card และ 3rd party payment ต่างๆที่เป็นที่นิยมและปลอดภัย อันนี้สามารถจะเป็นทั้ง สินค้าที่เป็น stock หรือ เป็นห้องพักโรงแรมที่จะเป็นต้องระบุวัน ราคาก็จะปรับเปลี่ยนตามความยากง่ายและความละเอียด

 

 

 

 

 

 

Web Application – เว็ปไซต์ที่สามารถ customised ได้ตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ

 

การทำเป็นไซต์ที่มีฟังก์ชั้นพิเศษสามารถ ปรับแต่ง ดัดแปลงได้ตามต้องการ อันนี้อาจจะต้องใช้ความสามารถพิเศษเขียนระบบเพิ่มเติมขึ้นมาเพื่อรองรับระบบที่ผู้ว่าจ้างต้องการ ซึ่งนอกจาก ความเชี่ยวชาญและระยะเวลาที่อาจจะนานกว่าแบบอื่นๆแล้ว ราคาเองก็สูงด้วยเช่นกัน หากฟังก์ชั่นที่ต้องการมีความสับซ้อนเท่าใดราคาก็จะสูงตามลำดับ

 

 

 

 

Signature - Springboard Solutions

 

 

We are professional at Website, Web Design, SEO, Online Marketing Plans
Athittaya Rodthong (Maprang),
Senior Sale Manager
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — -
Springboardsolutions, Phuket Office
88/9 B105 Software Park Building Floor 1,
Moo 2 Chaofah West Rd., Vichit, Muang, Phuket 83000
Mobile : (66)95 029 6644
Email : athittaya@springboardsolutions.me

สนใจบริการของ Springboard Solutions อ่านเพิ่มเติมได้ที่ –> Service

 

 

ความแตกต่างระหว่าง Alt Text และ Image Title ใน WordPress ที่ส่งผลต่อ SEO


ทำไม alt text และ image title ถึงสำคัญ

หลายต่อหลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า web content มีผลต่อการทำ SEO ของเว็ปนั้นๆ และ web content นั้น ก็ไม่ได้ประกอบด้วย text เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีรูปภาพด้วย และการตั้งชื่อภาพและ alt text ล้วนมีส่วนช่วยในการทำ SEO ทั้งสิ้น เพราะทั้ง 2 ตัวนี้มีส่วนช่วยในการเข้าถึง website เนื่องจาก Search Engines เจ้าดังอย่าง อากู๋เองเน้นถึงการใส่ และตรวจจับจาก alt text เป็นหลัก และ รองลงมาคือ image title ดังนั้นถ้าให้ดี สำหรับ web admin อย่างพวกเราจึงควรให้ความสำคัญของทั้ง 2 ตัวนี้เท่าเทียมกัน เราจึงจะมาอธิบายถึง ความแตกต่างระหว่าง Alt Text และ Image Title ใน WordPress ที่ส่งผลต่อ SEO

 

  • ความแตกต่างระหว่าง Alt Text และ Image Title ใน WordPress

    – Image Title ก็คือ ชื่อของภาพ นั่นเอง มีผลต่อการทำ SEO ของเว็ป และผู้เข้าชม website สามารถมองเห็นได้ หรือ อ่านได้

    ตัวอย่าง Image Title แสดงบนเว็ปไซต์ จะแสดงชื่อไฟล์เมื่อนำเม้าส์ไปชี้ - Springboard Solutions, SEO, Website

    ตัวอย่าง Image Title แสดงบนเว็ปไซต์ จะแสดงชื่อไฟล์เมื่อนำเม้าส์ไปชี้ – Springboard Solutions

ความแตกต่างระหว่าง Alt Text และ Image Title ใน WordPress ที่ส่งผลต่อ SEO by Springboard Solutions, Phuket, ภูเก็ต

ตัวอย่าง Image Title ใน WordPress – Springboard Solutions

Alt Text หรือ บางคนอาจจะเรียก Alt Image หรือ Image Tag มีผลต่อการทำ SEO ของเว็ป เช่นเดียวกัน แต่ ผู้เข้าชมเว็ปทั่วไปจะมองไม่เห็น alt text

ตัวอย่าง alt text ใน WordPress - Springboard Solutions, SEO, Website

ตัวอย่าง alt text ใน WordPress – Springboard Solutions

ตัวอย่าง alt text ใน WordPress - Springboard Solutions, SEO, Website

ตัวอย่าง alt text แสดงบนเว็ปไซต์ กรณีไฟล์ภาพมีปัญหา – Springboard Solutions

 

ดูเผินๆ อาจจะดูเหมือนไม่แตกต่าง แต่แท้จริงแล้ว alt text นั้นมีจุดดีมากกว่า เช่น สามารถใส่ keyword ที่ Image Title ไม่สามรถอธิบายได้ เพราะชื่อใต่ภาพบางภาพ อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องไปข้อมูลบนเว็ปไซต์โดยรวม และเราต้องการใส่ keyword เพิ่มเติมจะช่วยให้อากู๋เข้าใจ ตัวอย่างเช่น ร้านขายของที่ขายสินค้า เสื้อผ้า นาฬิกา กระเป๋า ก็ควรใส่ชื่อรุ่น ยี่ห้อ ลงไปให้เหมาะสม ดังนั้น เราจึงควรใส่ ทั้ง alt text และ image title

กรณียกเว้น
– ภาพที่ใส่ในเว็ปไซต์เพื่อตกแต่งไม่จำเป็นต้องใส่ alt text
– ไม่ควรใส่ alt text ซ้ำๆ ข้อความเดิมในหลายๆภาพให้เกิดความสับสน SEO

Springboard Solutions E-mail Signature format, athittaya rodthong

 

 

 

 

We are professional at Website, Web Design, SEO, Online Marketing Plans
Athittaya Rodthong (Maprang),
Senior Sale Manager
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — -
Springboardsolutions, Phuket Office
88/9 B105 Software Park Building Floor 1,
Moo 2 Chaofah West Rd., Vichit, Muang, Phuket 83000
Mobile : (66)95 029 6644
Email : athittaya@springboardsolutions.me

krabi elephant house sanctuary FB logo

Website

Patong Tattoo Logo

Website

 

เราต้องยอมรับว่าโลกมันเปลี่ยนไป การทำการตลาดออนไลน์ไม่นิ่ง เพราะเราไม่ได้แค่แข่งขันกับคนอื่นแต่เรายังต้องชนะใจคนอ่าน ดังนั้นทางทีมงานของ Springboard Solution จึงคิดโพสต์ให้ Phuket E Magazine ที่เป็น Socail Media ของ ททท. สำนักงาน ภูเก็ต โดยเล่นกับ “หางเสียง” ของคนภูเก็ตที่ใช้กันอยู่ทุกๆวัน แต่ไม่ได้มีใครเคยมาเล่า มาแชร์ เราเลยลองหยิบยกเอาเรื่องของ “หางเสียง” ที่เป็นเอกลักษณ์มาเล่นในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับดีมากจากคนอ่าน มีคนแชร์โพสต์ประมาณ 1,400 กว่าแชร์ภายในเวลาเพียงไม่ถึง 3 วัน โดยไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มยอดไลค์สักบาท

เรามาวิเคราะห์กันว่าทำไม content แบบนี้ถึงมีการตอบรับที่ดี

 

 

เราจะมาแบ่งกลุ่มคนที่แชร์ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่
1. คนที่เขาก็อินกับ content เพราะเค้ารู้และเค้าก็ใช้คำเหล่านี้อยู่ทุกๆวัน มีการ tag เพื่อนๆ และใช้ประโยคที่ใช้ๆกันทุกๆวันในเพจด้วย
2. คนที่เค้าไม่รู้ว่ามันเป็นคน ภูเก็ตแต่ได้ยินเพื่อนๆใช้ เลยเพิ่งเข้าใจว่า อ๋อ นี่มันเป็นหางเสียงที่ติดปากของคนภูเก็ตแบบนี้เอง

อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นยอดไลน์
แต่ใช่ว่าเราเน้นแค่คำภูเก็ต เพราะการทำกราฟฟิกและใช้ตัวหนังสือกับภาพ background ก็ช่วยเล่าเรื่องราว และเพิ่มอารมณ์ให้ข้อความมากขึ้นด้วย ภาพ background จะเป็นภาพใน พิพิธภัณฑ์ที่เรียงต่อๆกัน เป็นภาพเดียว ตัวอักษรกลมๆ มนๆ ดูเหมือนการเขียนด้วยลายมือ

Facebook ของ Phuket E Magazine ในวันที่ 9 มกราคม 2561 มีคนตามอยู่ที่ 206,000 กว่าคน พอ content นี้ออกไป มี Reached ถึง 189,209 ถือเป็น 91.85% ซึ่งปกติ Facebook จะโชว์ feed เข้าหาคนที่ตามเพจเราแค่ 2-3% เท่านั้น นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ พี่มาร์ค แกให้ ลด reach สำหรับเพจขายของต่างๆที่ไม่ได้จ่ายตังอีก นี่มันจะ #%$ ขึ้นๆ ของขึ้นเลย .. ดึงวิญญาณกลับมาแปป มีการ comments กลับถึง 1,729 เลย แสดงว่าเราได้ใจลูกเพจเยอะมาก แต่สำหรับในการทำการตลาดออนไลน์ต่อๆไป หลังจาก facebook มีการเปลี่ยน algorithm นี้ เราคงต้องมาคำนึงถึงอีก หลายๆปัจจัยในการทำ content อาทิ เช่น content engagement valued, FB live, youtube หรือ ข้อมูลเชิงลึก ข้อมูลที่แตกต่าง ที่ช่วยให้เพจเราเป็นที่คนใจกันต่อไป

ที่มา Facebook ของ Phuket E Magazine

แน่นอน ก่อนที่จะมาเป็น Loyalty Customer ได้นั้น กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ล้วนเคยเป็น ‘คนแปลกหน้า’สำหรับพวกเรามาก่อน แต่การที่เราจะ ‘ดึง’ พวกเข้าเหล่านั้นให้มาเป็นลูกค้าประจำ เป็นลูกค้าที่ซื่อสัตย์ต่อสินค้าของเรา หรือ อาจจะยิ่งไปกว่านั้นคือ กลายมาเป็น ผู้สนับสนุนสินค้าของเรา หรือ ‘Promoters’ ให้กับสินค้าเราโดยที่เราเองไม่ต้องขอร้อง หรือจ่ายเงินให้พวกเขาเหล่านั้นเลย คือ ขั้นตอนการเปลี่ยน “คนแปลกหน้า” ให้มาเป็น “ผู้สนับสนุนสินค้า” ภาพแผนภูมิรูปภาพ ด้านบน ได้แสดง ถึง วิวัฒนาการ ของ คนแปลกหน้า

คนแปลกหน้า — แน่นอน เราไม่เคยรู้จักคนเหล่านั้น และคนเหล่านั้นก็ไม่รู้จักเราเช่นกัน แต่พวกเขาอาจจะถูกดึงมาหาเรา โดยได้รับข้อมูลจาก ทีวี โฆษณา เพื่อน และ สื่อออนไลน์ต่างๆ และเกิดความสนใจในสินค้าของเรา (Attract)และเริ่มวิวัฒนาการ สู่ขั้นต่อไป

ผู้เข้ามาชม — หลังจากที่พวกเขาเหล่านี้ได้เกิดความสนใจในสินค้าของเรา พวกเขาก็จะเริ่มทำการ search หาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของเรา มาเป็น Visitors ในหน้า เพจ เรา เข้ามาอ่าน Blog ของเรา และ ตามสื่อ Social ต่างๆ ของพวกเรา และแน่นอนที่สุด ถ้ากลุ่มคนเหล่านี้เริ่มเข้ามาแวะชม สินค้าของเรา เราก็ต้องดำเนินการขั้นต่อไปเพื่อที่จะเปลี่ยนพวกเขาให้มาเป็น กลุ่มเป้าหมาย ‘Leads’ ซึ่งขั้นตอนนี้เราอาจจะต้องศึกษาลึกลองไปอีก

กลุ่มเป้าหมาย — แน่นอน กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ไม่ใช่ กลุ่ม Target ที่เราทำ Market Set ไว้แต่ทีแรก แต่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่เราคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าจะซื้อของของเราแน่ๆ ด้วยเหตุผลหลายข้อคือ มาดูของในร้านเราหลายรอบแล้ว มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อสินค้าตัวนี้ และมีลักษณะตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เราวางไว้ตั้งแต่แรก หรือที่เรียกว่า Potential Customer เราอาจจะต้องศึกษา พูดคุยถึงความสนใจและต้องการของพวกเขาให้ระเอียดขึ้นอีกนิด และเมื่อเราได้คำจำกัดความของผู้ที่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะซื้อของของเราแล้ว เราควรจะต้องโทรตาม แจ้งโปรโมชั้นสินค้าที่เขาสนใจ สร้างระบบ Landing Page เพื่อที่จะปิดการขายของเราให้ได้ คือการ ‘Close Sale’ บางร้านค้าทำระบบติดตามลูกค้าเช่นถ้ากลุ่มเป้าหมายเราใส่สินค้าในตะกร้าสินค้าแต่ยังไม่ทำการซื้อ พวกเขาอาจจะได้รับข้อความสนับสนุนการขายจากทางร้านอีกครั้ง เช่น ‘บัตรเครดิตนี้ใช้เป็นลดของสินค้าตัวนี้ได้’ เพื่อเป็นการกระตุ้นและย้ำให้พวกเขาอยากได้สินค้าของเรา เพราะเขาอาจจะรู้สึกว่ามันไม่คุ้มในราคาที่เคยเห็น เลยเกิดความลังเลและใช้เวลานานในการตัดสินใจ

ลูกค้า — จนกระทั่งลูกค้าตัดสินใจซื้อของจากร้านค้าเราแล้ว จึงจะเรียกได้ว่าเราทำการปิดการขายได้แล้ว หรือ ‘Close Sale’ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่ถือว่าขั้นตอนการขายขั้นตอนสุดท้าย เพราะแน่นอนว่า ลูกค้าเหล่านี้ยังสามารถมารีวิวสินค้า บอกต่อ หรือ ช่วยส่งเสริมการขายสินค้าของเราด้วยหากเขามีความพึงพอใจในสินค้าของเรา และอีกหนึ่งเหตุผลคือ เมื่อเขาได้ซื้อของของเราครั้งนึงแล้ว เราจำเป็นที่จะต้อง มีข้อมูลของเขาเพื่อจะทำการติดตามและส่งโปรโมชั้นสินค้าใหม่ไปให้เขาอีก ไม่ว่าจะเป็น CRM, E-mail เพื่อส่งโปรโมชั่นไปให้พวกเขา ลูกค้าจะได้ไม่ลืมเรา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ Coke สังเกตุว่าการจะเห็นโฆษณาของ Coke ออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้าไม่ลืม เช่นเดียวกับ ไอศรีม Magnum ที่มีมาตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังการทำโฆษณาออกมาเมื่อ 2–3 ปีก่อน จนคนกลับมาสนใจอีกครั้ง

ผู้สนับสนุน — และท้ายสุดเมื่อ เขาเห็นว่าสินค้าเราดีจริงและได้รับข้อเสนอดีๆ จากทางร้านเราแบบสม่ำเสมอ จนพวกเขาอาจจะกลายเป็น ผู้มีความรู้ความชำนาญในสินค้าของเรามากกว่าพนักงานของเราเสียอีก เราอาจจะเรียกเขาว่าเป็นผู้รู้จริง (Delight) ทางร้านค้าจำเป็นต้องใส่ใจกับกลุ่มผู้สนับสนุนด้วย เช่นคอยทำ Social Monitoring ดูกระแสตอบรับของสินค้าเราในโลกออนไลน์ ทั้งที่เป็น บวก และ ลบ เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการปรับปรุงทั้งในตัวสินค้า และการตลาดของเราในภายหน้า

จากการจัดอันดับ ของเว็บไซต์ topbestbrand.com

10 อันดับบริษัทบริการกำจัดปลวกและแมลงทุกระบบที่แนะนำ!

  • POWER PEST TEAM (เพาเวอร์ เพสท์ ทีม)
  • I Am Bug (ไอ แอม บัก)
  • Mini Bug
  • Bug People
  • Unicorn group (สหยูนิคอร์กรุ๊ป)
  • 7 เพสท์ คอนโทรล เซอร์วิส
  • Rentokil (เร็นโทคิล)
  • Green Home Pest Control กรีนโฮม เพทส์ คอนโทรล
  • Cannon Pest Management
  • Debug Thai ดีบัก เทอไมท แอนด์ เพสท์ คอนโทรล

 

ปรากฏว่า I Am Bug (ไอ แอม บัก) ที่ทาง springboard solutions ได้รับการไว้วางใจจากทาง I Am Bug (ไอ แอม บัก) ให้พัฒนาเว็บไซต์ www.iambug.co.th และ Create Content ในเว็บไซต์เพื่อทำการตลาดเบื้องต้น รวมถึงการดูแลสื่อ Social Media ของ I Am Bug (ไอ แอม บัก) อีกด้วย

ด้วย Content ที่มีมานำสนออย่างต่อเนื่อง บวกกับ การบริการอย่างมืออาชีพของ I Am Bug (ไอ แอม บัก) จึงทำให้ทางเว็บไซต์ topbestbrand.com เลือกที่จะแนะนำ I Am Bug (ไอ แอม บัก) ให้ติด 1 ใน 10 อันดับบริษัทบริการกำจัดปลวกและแมลงทุกระบบที่แนะนำ!

 

 

ด้วยการทำการตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่องให้กับ I Am Bug (ไอ แอม บัก) ตลอดระยะเวลาที่ไว้ใจเรา ทาง springboard solutions ได้ผลิตผลงานออกมาอย่างมีคุณภาพ ขอเพียงคุณเชื่อในเรา และ เราจะทำให้ลูกค้าเชื่อในคุณ !!